กยศ.
กองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา (กยศ.) จัดตั้งขึ้นตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 28 มีนาคม พ.ศ. 2538 และมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 16 มกราคม พ.ศ. 2539 ให้เริ่มดำเนินการกองทุนในลักษณะเงินทุนหมุนเวียน ตามนัยมาตรา 12 แห่งพระราชบัญญัติเงินคงคลัง พ.ศ. 2491 ต่อมารัฐบาลได้พิจารณาเห็นความสำคัญของกองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษามากขึ้น จึงได้มีการประกาศใช้พระราชบัญญัติกองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา พ.ศ. 2541 มีผลให้กองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษามีฐานะเป็นนิติบุคคล โดยอยู่ในการกำกับดูแลของกระทรวงการคลัง มีวัตถุประสงค์ให้กู้ยืมเงินแก่นักเรียนหรือนักศึกษาที่ขาดแคลนทุนทรัพย์เพื่อเป็นค่าเล่าเรียน ค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวเนื่องกับการศึกษา และค่าใช้จ่ายที่จำเป็นในการครองชีพระหว่างศึกษา.
พระราชบัญญัติกองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา พ.ศ. 2560.
ต่อมา พระราชบัญญัติกองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา พ.ศ. 2560 ได้ประกาศในราชกิจจานุเบกษา เมื่อวันที่ 27 มกราคม 2560 และมีผลบังคับใช้เมื่อวันที่ 26 กรกฎาคม 2560 มีผลให้กองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษาอยู่ในการกำกับดูแลของรัฐมนตรี และมีฐานะเป็นนิติบุคคลที่ไม่เป็นส่วนราชการตามกฎหมายว่าด้วยระเบียบบริหารราชการแผ่นดินหรือรัฐวิสาหกิจตามกฎหมายว่าด้วยวิธีการงบประมาณและกฎหมายอื่น เนื่องจากกองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษาตามพระราชบัญญัติกองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา พ.ศ. 2541 และกองทุนเงินกู้ยืมเพื่อการศึกษาที่ผูกกับรายได้ในอนาคตตามระเบียบกระทรวงการคลัง ว่าด้วยการบริหารกองทุนเพื่อการศึกษา พ.ศ. 2549 ที่ออกตามพระราชบัญญัติเงินคงคลัง พ.ศ. 2491 มีการบริหารจัดการและการดำเนินการที่มีข้อจำกัด และไม่สอดคล้องกับนโยบายการผลิตกำลังคนและการพัฒนาประเทศสมควรบูรณาการการบริหารจัดการและการดำเนินการของกองทุน กยศ. และกองทุน กรอ. ให้เป็นเอกภาพอยู่ภายใต้กฎหมายเดียวกัน และเพิ่มมาตรการในการบริหารจัดการกองทุนให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น.
- ปัจจุบัน : พรบ.กยศ. (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2566
- ราชกิจจานุเบกษา : เล่ม 140 ตอนที่ 20 ก
- ผลใช้บังคับ : ตั้งแต่วันที่ 20 มีนาคม 2566
- วิสัยทัศน์ (Vision) : เป็นกองทุนหมุนเวียน
- : ที่ให้โอกาสทางการศึกษา
- : เพื่อพัฒนาทุนมนุษย์
- : และสร้างอนาคตให้คนไทยอย่างยั่งยืน
- : ด้วยระบบบริหารจัดการที่ดีและทันสมัย
ซึ่งเป็นการแก้ไขเพิ่มเติมพระราชบัญญัติกองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา พ.ศ. 2560 เพื่อขยายโอกาสในการเข้าถึงเงินกู้ยืมเพื่อการศึกษาให้มากขึ้นเพื่อรองรับการเรียนรู้ตลอดชีวิตให้มีระบบการให้ทุนการศึกษา ในสาขาวิชาขาดแคลนที่ต้องได้รับการส่งเสริมเป็นพิเศษ ปรับเปลี่ยนการดำเนินงานของกองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษาให้ทำงานเชิงรุก โดยเฉพาะอย่างยิ่งการให้ข้อมูลแก่นักเรียนหรือนักศึกษาก่อนเลือกสาขาวิชาที่จะกู้ยืมเงินเรียน เพื่อให้สอดคล้องกับอาชีพแห่งอนาคต รวมทั้งให้มีความคล่องตัวในการบริหารจัดการเงินกู้ยืมเพื่อการศึกษาอย่างเหมาะสมและเป็นธรรม รวมถึงกำหนดกลไกให้ผู้กู้ยืมเงินสามารถชำระเงินคืนกองทุนตามความสามารถในการหารายได้และสร้างวินัยในการชำระเงินคืนกองทุนเพื่อสร้างความยั่งยืนแก่กองทุน
กยศ. ม.ราชภัฏนครปฐม
รายงานจำนวนข้อมูลนักศึกษาของมหาวิทยาลัยราชภัฏนครปฐม และภาพรวมการกู้ยืมทั้งหมด ที่มหาวิทยาลัยรับผิดชอบ (ข้อมูล ณ วันที่ 18 มิ.ย. 2566).
จำนวน นักศึกษาของมหาวิทยาลัย ทั้งภาคปกติ และกศ.พป. ทั้งหมด
จำนวน ผู้กู้ กยศ. ทั้งหมด ทั้งภาคปกติ และกศ.พป. ทุกชั้นปี
จำนวน ผู้กู้รายใหม่ของมหาวิทยาลัย ทั้งภาคปกติ และกศ.พป.
จำนวน เจ้าหน้าที่ กยศ. ที่ดูแลผู้กู้ กยศ.
การดำเนินงาน กยศ. 2566
สรุปผลการดำเนินงานในแต่ละขั้นตอนของการกู้ยืมเงินกองทุน กยศ. ประจำปีการศึกษา 2566.
เอกสาร
เอกสารดังต่อไปนี้ เป็นเอกสารที่นักศึกษาผู้กู้ยืม กยศ. จะต้องใช้ยื่นกู้ กับทางมหาวิทยาลัยราชภัฏนครปฐม เฉพาะกลุ่มนักศึกษารายใหม่ที่เข้าศึกษาและได้รับการงานตัวเรียบร้อยแล้ว ไม่ว่านักศึกษาจะเคยหรือไม่เคยเป็นผู้กู้มาก่อนก็ตาม รวมถึงนักศึกษาที่เริ่มกู้ครั้งแรกกับมหาวิทยาลัยชั้นปีที่ 2-5 รวมถึงบุคคลที่เคยหยุดกู้ยืมมาจากสถาบันการศึกษา.
ข้อบังคับแนวปฏบิติ ในการจัดเตรียมเอกสาร.
- ผู้กู้ยืมต้องเตรียมเอกสารเพื่อทำการ Upload ในระบบ DSL ให้มีความครบถ้วนสมบูรณ์ เห็นรายละเอียดชัดเจนโดยสามารถใช้โทรศัพท์มือถือถ่ายภาพเอกสารแทนการสแกนเอกสารได้ ถ่ายภาพ/สแกนไฟล์ให้ ชัดเจน และเป็น แนวตั้งเท่านั้น เอกสารต้องชัดเจน สมบูรณ์ อ่านออก ไม่เบลอ ไม่ดำ ฯลฯ ห้ามทำเอกสารต้นฉบับหาย! เนื่องจากต้องนำส่งสถานศึกษาในวันนัดส่ง
- ระบบรองรับไฟล์สกุล PDF / JPEG / GIF / TIFF / PNG ขนาดไม่เกิน 10 MB
- ชื่อเจ้าของเอกสารต้องเป็นบุคคลเดียวกันกับที่จะบันทึกในระบบ
- ใช้ปากกาสีน้ำเงินในการกรอกและลงนามเอกสารเท่านั้นห้ามลบ ห้ามขีดทับ ห้ามใช้น้ำยาลบคำผิดให้ปริ้นออกมาแล้วเขียนใหม่เท่านั้น
- การลงนาม เจ้าของเอกสารต้องลงนามให้เหมือนกัน ตรงกันทุกฉบับเจ้าของเอกสารต้องกรอกข้อมูลให้ถูกต้องครบถ้วน และลงลายมือชื่อด้วยตนเองเท่านั้นห้ามพิมพ์ชื่อ หรือให้บุคคลอื่นลงลายมือชื่อแทน
1.หนังสือให้ความยินยอมในการเปิดเผยข้อมูล
(ขั้นตอนการยื่นคำขอกู้ยืม กรณีผู้กู้ยืมที่ทำสัญญากู้ยืมเงินใหม่เท่านั้น)
7 เมษายน 2564 ดาวน์โหลด:275,182 DOWNLOAD
- สั่งพิมพ์หนังสือให้ความยินยอมฯดังกล่าว
- สั่งพิมพ์ตามจำนวนของผู้ที่เกี่ยวข้องทุกคนรวมตัวผู้ขอกู้ยืมด้วย คนละ 1 ฉบับ
- กรอกข้อมูลด้วยลายมือตัวบรรจง
- ลงลายมือชื่อรับรอง โดยเจ้าของเอกสารเป็นผู้ลงนามด้วยตนเองเท่านั้น
2.สำเนาบัตรประชาชน
ใช้เป็นสำเนาเท่านั้น สี หรือ ขาวดำ ก็ได้
ถ่ายเฉพาะด้านหน้าบัตร หรือ ทั้งสองด้าน ก็ได้
ถ่ายเอกสารให้คมชัด ไม่ซีดไม่จางจนอ่านไม่ออก
หมายเหตุ & สำคัญ
กรณีดังนี้
หมายเหตุ กรณีผู้เกี่ยวข้องสำเนาถูกต้องแต่เขียนหนังสือไม่ได้ ให้ปั้มลายนิ้วมือหัวแม่มือขวาลงในสำเนา ให้ผู้กู้วงเล็บและเขียนชื่อนามสกุลของผู้ประทับลายนิ้วมือ ด้วยตัวบรรจงในวงเล็บนั้น และหาพยาน2คนที่มิใช่คนในครอบครัวเซ็นรับรองลายมือชื่อ เป็นอันเรียบร้อย
หมายเหตุ กรณีมีใบหย่าของบิดาหรือมารดาให้สำเนาโดยผู้กู้ หรือบิดา หรือมารดา ที่น้องอาศัยอยู่ด้วย
หมายเหตุ กรณีลงนามในแบบฟอร์มต่างๆ แต่เขียนหนังสือไม่ได้ ให้ปั้มลายนิ้วมือหัวแม่มือขวาลงในตำแหน่งที่ให้ลงนามเพียงอย่างเดียว หากมีวงเล็บให้ผู้กู้วงเล็บและเขียนชื่อนามสกุลของผู้ประทับลายนิ้วมือ ด้วยตัวบรรจงในวงเล็บนั้น เป็นอันเรียบร้อย
3.หลักฐานรับรองรายได้ครอบครัวฯ
กรณีที่อาชีพบิดามารดาหรือผู้ปกครองมีงานทำประจำ
ในลักษณะรายเดือน รายสัปดาห์ หรือโอนเงินเดือน
ติดต่อนายจ้างเพื่อขอเอกสารดังกล่าว
- ต้องแนบสลิปเงินเดือนจาก/หน่วยงาน/โรงงาน/องค์กรนายจ้าง ย้อนหลัง3เดือน
- หรือหนังสือรับรองเงินเดือนจากหน่วงานรัฐ/เอกชน ย้อนหลังไม่เกิน 90 วัน
- หรือ Statement ย้อนหลัง 3 เดือน จากบัญชีที่ได้ใช้ในการรับเงินเดือน
กรณีที่อาชีพบิดามารดาหรือผู้ปกครองมีรายได้ ที่ไม่ประจำ
กยศ. 102 หนังสือรับรองรายได้ครอบครัวของผู้กู้ยืมเงิน (กยศ.)
9 เมษายน 2564 ดาวน์โหลด:644,931 DOWNLOAD
- ผู้กู้ต้องให้ผู้ใหญ่บ้านหรือเจ้าหน้าที่รัฐเป็นผู้รับรอง ลงในเอกสารที่มีให้ดาวน์โหลด เรียกว่า กยศ.102
- สั่งพิมพ์เอกสารรับรองรายได้ครอบครัว กยศ.102 รับรองรายได้ของบิดา/มารดา (หากบิดามารดามีรายได้ไม่ประจำทั้งคู่สามารถใช้ใบเดียวกันได้)
- ผู้กู้ยืมสามารถกรอกข้อมูลต่างๆ ลงในเอกสาร กยศ.102 แล้วให้ผู้รับรองรายได้ลงนามกำกับ
- ขอสำเนาบัตรประจำตัวเจ้าที่ของรัฐจากผู้รับรองฯที่มีทั้งสองด้านของบัตร ตรวจสอบวันหมดอายุบัตร จากนั้นให้ผู้รับรองรายได้ลงนามสำเนาถูกต้อง
- เจ้าหน้าที่รัฐต้องไม่เกี่ยวพันธ์เป็นเครือญาติกับผู้กู้
4.ใบเกรด / จิตอาสา
ใบเกรด
- ใบเกรด 6 เทอม สำหรับนักศึกษาเข้าใหม่ปี 1
- ใบเกรดปีก่อนหน้า สำหรับนักศึกษาปี 2-5
- ถ่ายสำเนาและรับรองสำเนาถูกต้อง
จิตอาสา
ไม่จำกัดชั่วโมงกิจกรรมในปีการศึกษาก่อนหน้า
9 เมษายน 2566 ดาวน์โหลด:1,931 DOWNLOAD
- หากไม่มี ไม่เคยทำ ให้ดาวน์โหลดเอกสารแล้วลงมือทำ
ตัวอย่างเอกสาร
นักศึกษาสามารถ คลิกดูรายละเอีดการกรอกเอกสารทุกฉบับ ตามตัวอย่างที่เจ้าหน้าที่แสดงไว้ในส่วนนี้ ศึกษาวิธีการกรอกให้ถูกต้องตามตัวอย่าง ให้ได้มากที่สุด เพื่อป้องกันความผิดพลาดที่อาจเกิดขึ้น จะส่งผลให้การกู้ยืมของนักศึกษาเป็นไปด้วยความเรียบร้อยถูกต้อง และไม่ต้องเสียเวลาแก้ไข.
บันทึกข้อมูล
หลังจากที่ผู้กู้เตรียมเอกสารเรียบร้อยแล้ว ให้กรอกข้อมูลลงระบบ โดยการกรอกข้อมูลนั้น จำเป็นบันทึกผ่านระบบ DSL หรือบันทึกผ่าน App กยศ.Connect ทั้งนี้ในกรณีที่ผู้กู้ยังไม่เคยสมัครสมาชิกต้องสมัครสมาชิกก่อน สามารถทำผ่าน Web Browser : GOOGLE Chrome หรือ Application ก็ได้ทั้ง 2 ช่องทาง
- ทั้งหมด
- สมัคร
- บันทึก
- ยกเลิกคำขอ
ส่งเอกสาร แบบคำขอยื่นกู้ 2566 (รุ่น66ทุกคน และ รายใหม่ปี 2-5)
นักศึกษาต้องส่งเอกสารแบบคำขอยื่นกู้ ให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบก่อนทำการแนบไฟล์ลงระบบ.
ไม่ต้องจองคิวรอบที่5
นำเอกสารมาส่งในวันที่มหาวิทยาลัยกำหนด โดยมิต้องนำผู้ปกครองมาที่สถานศึกษา ให้มาด้วยตัวเอง ใส่ชุดนักเรียน หรือ นักศึกษาเท่านั้น
แนบไฟล์
จะทำได้ก็ต่อเมื่อได้รับการตรวจสอบจากเจ้าหน้าที่แล้ว จะมีตราประทับ พร้อมลายเซ็นเจ้าหน้าที่ที่ทำการตรวจสอบให้กับนักศึกษาแล้วเท่านั้น จึงจะสามารถดำเนินการขั้นตอนนี้ได้
ส่งเอกสาร แบบเบิกฯ เทอม1/2566 (เก่าต่อเนื่องเลื่อนชั้นปี 2-5)
นักศึกษาต้องส่งเอกสารแบบเบิก และเอกสารจิตอาสาไม่น้อยกว่า 36 ชั่วโมง.
ไม่ต้องจองคิว
นำเอกสารมาส่งในวันที่กำหนด 22 - 31 ก.ค. 2566 กรณีอายุไม่ถึง 20 ปี ให้พาผู้แทนฯที่มีชื่อปรากฏในวงเล็บช่องลงนาม ผู้แทนฯ หากไม่มีชื่อปรากฏไม่ต้องพามา หากผู้แทนฯไม่ว่าง ให้พาคนอื่นที่อายุ 20 ปีบริบูรณ์แล้วมาลงนามแทนได้ ต่อหน้าเจ้าหน้าที่เท่านั้น ใส่ชุดนักเรียน หรือ นักศึกษาเท่านั้น
ตรวจสอบชั่วโมงสะสมจิตอาสา
หากเอกสารจิตอาสาไม่ถึง 36 ช.ม. จะไม่สามารถรับเงินโอนค่าครองชีพได้จนกว่าจะทำเอกสารดังกล่าวครบตามระเบียกองทุนฯ
เอกสารที่ต้องนำมาส่ง
- แบบเบิกฯ 1/2566 จากระบบ DSL 2 ฉบับ ช่องผู้กู้ลงนามได้เลย ช่องผู้แทนฯลงนามต่อหน้าเจ้าหน้าที่(ถ้ามี)
- สำเนาบัตรประชาชนผู้กู้ 2 ฉบับ ลงนามสำเนาถูกต้องได้เลย
- สำเนาบัตรประชาชนผู้แทนฯ 2 ฉบับ(ถ้ามี) ลงนามสำเนาถูกต้องต่อหน้าเจ้าหน้าที่
- หลักฐานจิตอาสา 36 ชั่วโมงที่ไม่ซ้ำกับในระบบ เจ้าหน้าที่จะตรวจรวมกับ ชั่วโมงจิตอาสาที่สะสมในระบบ กิจกรรมใดที่มีในระบบแล้ว ไม่ต้องทำเอกสารมาส่ง Download PDF จิตอาสาไม่น้อยกว่า36ชั่วโมง
ส่งเอกสาร แบบเบิกฯ เทอม1/2566 (เก่ากู้เกินหลักสูตร)
นักศึกษาต้องส่งเอกสารแบบเบิก และเอกสารจิตอาสาไม่น้อยกว่า 36 ชั่วโมง.
ไม่ต้องจองคิว
นำเอกสารมาส่งในวันที่กำหนด 6 -16 ก.ค. 2566 กรณีอายุไม่ถึง 20 ปี ให้พาผู้แทนฯที่มีชื่อปรากฏในวงเล็บช่องลงนาม ผู้แทนฯ หากไม่มีชื่อปรากฏไม่ต้องพามา หากผู้แทนฯไม่ว่าง ให้พาคนอื่นที่อายุ 20 ปีบริบูรณ์แล้วมาลงนามแทนได้ ต่อหน้าเจ้าหน้าที่เท่านั้น ใส่ชุดนักเรียน หรือ นักศึกษาเท่านั้น
ตรวจสอบชั่วโมงสะสมจิตอาสา
หากเอกสารจิตอาสาไม่ถึง 36 ช.ม. จะไม่สามารถรับเงินโอนค่าครองชีพได้จนกว่าจะทำเอกสารดังกล่าวครบตามระเบียกองทุนฯ
เอกสารที่ต้องนำมาส่ง
- แบบเบิกฯ 1/2566 จากระบบDSL 2 ฉบับ ช่องผู้กู้ลงนามได้เลย ช่องผู้แทนฯลงนามต่อหน้าเจ้าหน้าที่(ถ้ามี)
- สำเนาบัตรประชาชนผู้กู้ 2 ฉบับ ลงนามสำเนาถูกต้องได้เลย
- สำเนาบัตรประชาชนผู้แทนฯ 2 ฉบับ(ถ้ามี) ลงนามสำเนาถูกต้องต่อหน้าเจ้าหน้าที่
- หลักฐานจิตอาสา 36 ชั่วโมงที่ไม่ซ้ำกับในระบบ เจ้าหน้าที่จะตรวจรวมกับ ชั่วโมงจิตอาสาที่สะสมในระบบ กิจกรรมใดที่มีในระบบแล้ว ไม่ต้องทำเอกสารมาส่ง Download PDFจิตอาสาไม่น้อยกว่า36ชั่วโมง
ข่าวประชาสัมพันธ์
กิจกรรม หรือ ขั้นตอนการดำเนินงานต่าง ๆ จะถูกเก็บไว้เป็นรูปแบบของข่าวประชาสัมพันธ์ ให้นักศึกษาได้ติดตามประวัติย้อนหลัง.
ปฏิทินการส่งแบบคำขอยื่นกู้ /สัญญา ฯ สำหรับรายใหม่และเก่าจากรร.เดิม ประจำปี 2566
ให้ผู้กู้ติดตามกำหนดการอย่างต่อเนื่อง
- ส่งแบบคำขอ รอบที่ 1 ตั้งแต่วันที่ 18 - 31 พ.ค. 2566 (หมดเขตแล้ว)
- ส่งแบบคำขอ รอบที่ 2 ตั้งแต่วันที่ 06 - 13 มิ.ย. 2566 (หมดเขตแล้ว)
- ส่งแบบคำขอ รอบที่ 3 ตั้งแต่วันที่ 03 - 12 ก.ค. 2566 (หมดเขตแล้ว)
- ส่งแบบคำขอ รอบที่ 4 ตั้งแต่วันที่ 13 - 23 ก.ค. 2566 (หมดเขตแล้ว)
- ส่งแบบคำขอ รอบที่ 5 ตั้งแต่วันที่ 24 - 31 ก.ค. 2566 (ไม่ต้องจองคิว)
- ส่งสัญญาฯ รอบที่ 1 ตั้งแต่วันที่ 29 - 31 ก.ค. 2566 (ไม่ต้องจองคิว)
ปฏิทินการส่งแบบเบิก สำหรับรายเก่าต่อเนื่องเลื่อนชั้นปี เทอม 1/2566
ให้ผู้กู้ติดตามกำหนดการอย่างต่อเนื่อง
- รอบที่ 1 ตั้งแต่วันที่ 19 - 30 มิ.ย. 2566 (หมดเขตแล้ว)
- รอบที่ 2 ตั้งแต่วันที่ 6 - 16 ก.ค. 2566 (หมดเขตแล้ว)
- รอบที่ 3 ตั้งแต่วันที่ 22 - 31 ก.ค. 2566 (ติดต่อโดยไม่ต้องจองคิว)
ปฏิทินการส่งแบบเบิก สำหรับผู้กู้รายเก่าที่ขอกู้เกินหลักสูตร เทอม 1/2566
ให้ผู้กู้ติดตามกำหนดการอย่างต่อเนื่อง
- รอบที่ 1 ตั้งแต่วันที่ 6 - 16 ก.ค. 2566 (หมดเขตแล้ว)
ติดต่อเจ้าหน้าที่
สถานที่ปฏิบัติการ หน่วยงาน กยศ.
Frequently Asked Questions
: คำถามที่พบบ่อย
คำถามทั่วไป
1. กู้ กยศ. ปี 2566 หมดเขตยื่นเรื่องหรือยัง?
ขณะนี้มหาวิทยาลัยเปิดให้กู้ยืมปกติ.
2. การรับรองรายได้ครอบครัวต้องทำอย่างไร
1. กรณีมีรายได้ประจำ ใช้สลิปเงินเดือน/หนังสือรับรองเงินเดือนจากหน่วยงาน (ผู้มีอำนาจของหน่วยงานลงนาม) การกรอกรายได้ต้องระบุให้ตรงกับหลักฐานที่แนบและตรงกับข้อมูลที่บันทึกในระบบ.
2. กรณีไม่มีรายได้ประจำ ใช้แบบฟอร์ม กยศ. 102
- การกรอกรายได้ต้องระบุข้อมูลให้ตรงกับหนังสือรับรองรายได้ครอบครัวของผู้ขอกู้ยืมเงิน
(กยศ.102) และข้อมูลที่บันทึกในระบบ
-
สำเนาบัตรประจำตัวเจ้าหน้าที่ของรัฐ/ข้าราชการ/เอกสารอื่นใดรับรองว่าเป็นข้าราชการจากหน่วยงานที่ผู้รับรองได้สังกัด
เจ้าของบัตรลงลายมือชื่อรับรองสำเนาถูกต้องด้วยตนเองเท่านั้น.
3. ผู้กู้ยืมจะติดตามเรื่องการโอนเงินค่าครองชีพด้วยตนเองได้อย่างไร?
ผู้กู้ยืมสามารถตรวจสอบสถานะการโอนเงินของตนเองได้ ดังนี้
1. เว็บไซต์ของกองทุน ตรวจสอบยอดหนี้ https://wsa.dsl.studentloan.or.th/
2. ช่องทางออนไลน์ Mobile Application "กยศ. Connect" .
การกู้ยืม
สำหรับผู้กู้ยืมเงินที่มีการเปลี่ยนแปลงระหว่างปี หรือจบการศึกษา สถานศึกษาต้องรายงานสถานภาพ ตามจริง
โดยระบบจะมีให้สถานศึกษารายงาน เช่น ศึกษาต่อในสถานศึกษานั้นๆ ผู้กู้ยืมรายเก่าเลื่อนชั้นปีที่ได้รับอนุมัติ
ให้กู้ยืมเงินในสถานศึกษาปัจจุบัน สำเร็จการศึกษา ลาออก ให้ออก
การรายงานสถานภาพการศึกษาโดยผู้กู้
สำหรับผู้กู้ที่ต้องรายงานจะเกิดจาก กรณีดังนี้
กรณีที่ 1 ผู้กู้ยืมเงินมีการเปลี่ยนแปลงระหว่างปี เช่น ย้ายสถานศึกษา หรือ ไม่กู้ยืมเงินต่อ
กรณีที่ 2 ผู้กู้ยืมเงินที่ศึกษาอยู่ในสถานศึกษาที่ไม่ได้เข้าร่วมดำเนินงานกับกองทุน
ดังนั้น เพื่อรักษาสถานภาพการศึกษา ว่า “กำลังศึกษาอยู่” ระบบDSLจะแจ้งเตือน ให้ผู้กู้มารายงานสถานภาพ
เมื่อพบว่าไม่มีการรายงานสถานภาพมาแล้ว 1 ปี (365 วัน) นับจากวันที่รายงานสถานภาพครั้งล่าสุด
โดยจะแจ้งเตือนผ่าน Email และ Notification ให้ผู้กู้ยืมเข้าระบบเพื่อรายงานสถานภาพ
โดยระบบจะมีให้ดาวน์โหลด กยศ. 204 เพื่อรายงานและลงนามรับรองโดยสถานศึกษาปัจจุบัน
และสแกนข้อมูลเข้ามาในระบบ หากยังไม่ถึงระยะเวลา 365 วัน ฟังก์ชันการรายงานสถานภาพจะไม่ขึ้นค่ะ
ดังนั้น ผู้กู้ยืมเงินยังไม่ต้องดำเนินการใดๆเพราะรายงานสถานภาพจะไม่มีปุ่มแจ้งเตือน ให้คลิกค่ะ
การส่งรายงานสถานภาพ กยศ.204 และ กยศ.108
หากผู้กู้ยืมเงินประสงค์รายงานสถานภาพด้วยตนเอง (กยศ. 204)
หรือ รายงานข้อมูลผู้กู้ยืมเงิน (กยศ. 108) ผู้กู้ยืมเงินสามารถจัดส่งเอกสารดังกล่าว
ไปที่ธนาคารที่ผู้กู้ยืมเงินเปิดบัญชีรับโอนเงินค่าครองชีพ (ธนาคารกรุงไทย และ/หรือธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย)
โดยการส่งไปรษณีย์ไปที่สำนักงานใหญ่
1. บมจ.ธนาคารกรุงไทย ฝ่ายบริหารโครงการภาครัฐ
อาคารสุขุมวิท ชั้น 14 เลขที่ 10 ถนนสุขุมวิท
แขวงคลองเตย เขตคลองเตย
กรุงเทพมหานคร 10110
2. ธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย ฝ่ายนโยบายรัฐ
เลขที่ 66 อาคารนวม ชั้น 20 ถนนสุขุมวิท 21 (อโศก)
แขวงคลองเตยเหนือ เขตวัฒนา กรุงเทพมหานคร 10110
ทั้งนี้ การรายงานสถานภาพด้วยตนเอง (กยศ. 204)
ผู้กู้ยืมเงินจะต้องไม่มียอดค้างชำระ
หากท่านมีความประสงค์เปลี่ยนแปลง / แก้ไขเบอร์โทรศัพท์
ที่ใช้ในการลงทะเบียน ช่องทาง Mobile Application
"กยศ. Connect" หรือช่องทางเว็บไซต์ https://wsa.dsl.studentloan.or.th
ขอให้ทำหนังสือถึงกองทุนเพื่อขอเปลี่ยนแปลงข้อมูลเบอร์โทรศัพท์ในการลงทะเบียน
กยศ.Connect พร้อมแนบสำเนาบัตรประชาชนชน (รับรองสำเนาถูกต้อง)
โดยจัดส่งเอกสารทางไปรษณีย์เข้ามาตามที่อยู่กองทุนหรือส่งเอกสารไฟล์ .pdf
ทางอีเมล info@studentloan.or.th
กรอกรายละเอียดให้ถูกต้อง พร้อมเอกสารแนบที่เกี่ยวข้อง เช่น
สำเนาบัตรประจำตัวประชาชน
สำเนาหนังสือการเปลี่ยนชื่อ
สำเนาทะเบียนบ้าน
สำเนาสมุดบัญชีธนาคาร
*สำเนาเอกสารทุกฉบับ ต้องรับรองสำเนาถูกต้องจากผู้กู้ยืม
และนำส่งผู้บริหารและจัดการเงินให้กู้ยืม
(บมจ.ธนาคารกรุงไทย และ/หรือ ธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย)
ในปีการศึกษา 2564 สถานการณ์ของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19)
มีความรุนแรงมากขึ้น สถานศึกษาจึงเลื่อนการเปิดภาคเรียนและปรับรูปแบบการเรียนเป็นออนไลน์
กองทุนจึงได้ปรับกำหนดการให้สอดคล้องกับสถานศึกษา โดยขยายเวลาจากเดิมเดือนเมษายนเป็น
เดือนมิถุนายน 2564 ทำให้กำหนดการโอนเงินกู้ยืมมีการปรับเลื่อนตามมา
รวมถึงคณะรัฐมนตรีได้มีมติการปรับลดค่าเทอมให้แก่นักศึกษาระดับอุดมศึกษา
เพื่อช่วยลดภาระหนี้ให้แก่ผู้กู้ยืม ทำให้กองทุนต้องปรับกระบวนการกู้ยืมเงินในระบบ
DSLของระดับอุดมศึกษา เพื่อให้รองรับการบันทึกค่าเล่าเรียนจริงที่ได้รับการปรับลด
ตามมติคณะรัฐมนตรีให้กับนักศึกษาผู้กู้ยืม ซึ่งแล้วเสร็จตั้งแต่วันที่ 14 สิงหาคม 2564 ที่ผ่านมา
1. การโอนเงินค่าเล่าเรียน และค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวเนื่องกับการศึกษา
กองทุนจะโอนเงินเข้าบัญชีของสถานศึกษา ภายหลังจากธนาคารได้รับสัญญากู้ยืมเงิน
และหรือแบบยืนยันการเบิกเงินกู้ยืมว่าถูกต้องครบถ้วน ตรงกับข้อมูลที่ธนาคารได้รับจากระบบ DSL
โดยจะโอนทุกวันที่ 5, 15 และ 25 ของเดือน
2. การโอนเงินค่าครองชีพเดือนที่ 1 ให้แก่ผู้กู้ยืม
กองทุนจะโอนเงินค่าครองชีพเดือนแรกให้แก่ผู้กู้ยืมภายใน 30 วัน
นับจากวันที่สถานศึกษาทำการตรวจสอบยืนยันข้อมูลและแนบเอกสาร
การกู้ยืมของผู้กู้ยืมในระบบ DSL เรียบร้อยแล้วและสถานศึกษาจะต้อง
จัดส่งเอกสารการกู้ยืมที่ถูกต้องและครบถ้วนให้ธนาคารโดยเร็ว
หากธนาคารไม่ได้รับเอกสารการกู้ยืมดังกล่าวภายใน 30 วัน
กองทุนจะหยุดการโอนเงินครองชีพของผู้กู้ยืมในเดือนที่ 2 เป็นต้นไป
3. กรณียังไม่ได้รับการโอนเงินค่าครองชีพเดือนที่ 2 และค่าเล่าเรียน เกิดจากสาเหตุ ดังนี้
3.1 ธนาคารตรวจเอกสารการกู้ยืมแล้วพบว่าเอกสารไม่ถูกต้อง/ไม่ครบถ้วน
เช่น ผู้กู้ยืมเงินลงลายมือชื่อแทนบิดา มารดา , แนบไฟล์ที่มีข้อความ/เนื้อหา
ขาดหายบางส่วน ไม่ครบถ้วนตามฟอร์ม , พยานมิได้ลงนามในสัญญา เป็นต้น
โดยทางธนาคารจะแจ้งข้อมูลกลับทางอีเมลไปยังสถานศึกษาให้ได้รับทราบ
และสถานศึกษาจะต้องแจ้งให้ผู้กู้ยืมแก้ไขเอกสารให้ถูกต้องแล้วส่งให้ธนาคารโดยเร็ว
เมื่อธนาคารตรวจสอบความถูกต้องและครบถ้วนของเอกสารเรียบร้อยแล้ว
ผู้กู้ยืมจึงจะได้รับโอนเงินค่าครองชีพในเดือนที่ 2 เป็นต้นไป
3.2 ธนาคารยังไม่ได้รับเอกสารการกู้ยืม หรืออยู่ระหว่างการตรวจเอกสารการกู้ยืม
3.3 สถานศึกษายังมิได้จัดส่งเอกสารการกู้ยืมให้ธนาคาร
ชำระหนี้
โดยต้องคืน ให้กองทุนให้เสร็จสิ้นภายใน 15 ปี นับแต่วันที่ต้องเริ่มชำระหนี้
ให้ผู้กู้ยืมเงินชำระหนี้งวดแรก ภายในวันที่ 5 กรกฎาคม หลังจากครบระยะเวลาปลอดหนี้
การชำระหนี้งวดต่อๆไปให้ผู้กู้ยืมเงินชำระเงินต้นคืน ตามอัตราผ่อนชำระที่กองทุนกำหนด
พร้อมด้วยดอกเบี้ยหรือประโยชน์อื่นใด ในอัตราร้อยละ 1 ต่อปีของเงินต้นที่คงค้าง
ภายในวันที่ 5 กรกฎาคมของทุกปี
หากผู้กู้ยืมเงินผิดนัดชำระหนี้ ผู้กู้ยืมเงินจะต้องชำระค่าปรับ
หรือค่าธรรมเนียมจัดการกรณีผิดนัดชำระหนี้ตามอัตราที่กองทุนกำหนด
ผู้กู้ยืมเงินที่มีความประสงค์จะขอชำระหนี้คืนก่อนครบกำหนดระยะเวลาชำระหนี้
หรือก่อนครบระยะเวลาปลอดหนี้ 2 ปี สามารถชำระคืนได้โดยไม่เสียดอกเบี้ยหรือประโยชน์อื่นใด
หมายเหตุ
(ก)ให้ผู้กู้ยืมเงินไปติดต่อแสดงตน ขอชำระหนี้ และเลือกวิธีการผ่อนชำระเป็นรายปี
หรือรายเดือนกับผู้บริหารและจัดการเงินให้กู้ยืมได้ทุกสาขาก่อนที่จะครบระยะเวลาปลอดหนี้ 2 ปี
(ข)กรณีผู้กู้ยืมเงินยังอยู่ในระหว่างการศึกษา แต่ไม่ได้กู้ยืมในปีการศึกษาใด ต้องแจ้งสถานภาพการศึกษา
ต่อผู้บริหารและจัดการเงินให้กู้ยืมโดยให้นำใบรับรองจากสถานศึกษา และเลขบัตรประจำตัวประชาชน
พร้อมหมายเลขโทรศัพท์ของผู้กู้ไปแสดงทุกปีจนกว่าจะสำเร็จการศึกษา
1. ผ่านช่องทาง Mobile Application "กยศ. Connect"
2. ผ่านทางเว็บไซต์ https://wsa.dsl.studentloan.or.th
กรณีที่ 1 หากผู้กู้ยืมประสงค์ให้ถอนฟ้อง
ผู้กู้ยืมต้องชำระหนี้ปิดบัญชี พร้อมจ่ายค่าทนาย และส่งหลักฐานการชำระหนี้ปิดบัญชีให้กองทุนพิจารณาถอนฟ้อง
01.ชำระหนี้ปิดบัญชี พร้อมค่าทนาย ดังนี้
1. ชำระหนี้เงินกู้ยืมที่ธนาคารกรุงไทย หรือ ธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย
2. ชำระค่าทนายความ 5,500 บาท ก่อนวันที่ศาลนัด 2 สัปดาห์ที่ธนาคารกรุงไทยเท่านั้น
โดยชำระผ่านระบบ Teller Payment (กยศ. code : 9067) (กรอ. code : 92707)
02.ส่งหลักฐานการชำระหนี้ปิดบัญชี พร้อมแจ้งชื่อและเบอร์ติดต่อกลับ ดังนี้
1. ใบเสร็จการชำระหนี้ปิดบัญชี กยศ. หรือ กรอ.
2. ใบเสร็จการชำระค่าทนายความ
“ผู้กู้ กยศ.” ส่งให้แก่ บริษัท กรุงไทยกฎหมาย จำกัด
Fax: 0 2261 3811 โทรศัพท์ 0 2261 3739 ต่อ 8778
“ผู้กู้ กรอ.” ส่งให้แก่ ฝ่ายคดีและบังคับคดี กยศ. ระบุ “ขอให้ถอนฟ้อง กรอ. หรือผู้กู้ยืมกลุ่มไกล่เกลี่ย”
Fax: 0 2016 4940 โทรศัพท์ 0 2016 4888 ต่อ 550 – 587
กรณีที่ 2 ผู้กู้ยืมที่ไม่สามารถชำระหนี้เพื่อถอนฟ้องได้ ผู้กู้และผู้ค้ำประกันทุกคนจะต้องไปศาล
01.เจรจาไกล่เกลี่ยประนีประนอมยอมความในชั้นศาล กรณีที่ผู้กู้ยืมและผู้ค้ำประกันไปตามที่ศาลนัดหมาย สามารถขอผ่อนชำระหนี้รายเดือนให้เสร็จสิ้นภายในระยะเวลาไม่เกิน 9 ปี
•กรณีบุคคลใดบุคคลหนี่งไม่สามารถไปศาลได้ให้ทำหนังสือมอบอำนาจ พร้อมแนบสำเนาบัตรประชาชนและลงลายมือชื่อรับรองความถูกต้องให้บุคคลที่บรรลุ นิติภาวะทำแทนได้
02.กรณีที่ผู้กู้ยืมและผู้ค้ำประกันไม่ไปตามที่ศาลนัด "ศาลจะสั่งพิพากษาชำระหนี้ทั้งจำนวน"
โดยจะส่งคำบังคับแจ้งให้ผู้กู้ยืมและผู้ค้ำประกัน ชำระหนี้ให้เสร็จสิ้นใน 30 วัน หลังจากได้รับคำสั่งศาล
อื่นๆ
ที่ผู้กู้ยืมเงินมีต่อกองทุนเป็นอันระงับไป โดยให้ญาติ
แจ้งธนาคารกรุงไทย/ธนาคารอิสลามฯ ทราบ
โดยยื่นเอกสารหลักฐานเซ็นรับรองสำเนาถูกต้องทุกฉบับ ดังนี้
- สำเนาใบมรณบัตรของผู้กู้ยืมเงิน
- สำเนาทะเบียนบ้านของผู้กู้ยืมเงิน
- สำเนาบัตรประจำตัวประชาชนของผู้กู้ยืม (ถ้ามี)
- สำเนาบัตรประจำตัวประชาชนของผู้แจ้ง.
มีการบันทึกกรอบวงเงินและอนุมัติสัญญาแล้ว สถานศึกษาเก่าต้องยกเลิกสัญญากู้ยืมผ่านระบบ
e-Studentloan และส่งแบบยกเลิกสัญญาให้กับธนาคารในปีนั้นๆ แล้ว จึงสามารถขอยื่นกู้ยืม
ณ สถานศึกษาแห่งใหม่ โดยไม่เสียสิทธิการกู้ในปีนั้น
นักศึกษาสามารถเดินทางมาที่ มหาวิทยาลัยราชภัฏนครปฐม เมื่อเข้ามาในมหาวิทยาลัยของเรา จะมีหน่วยรักษาความปลอดภัยในพื้นที่ต่าง ๆ สามารถสอบถามเส้นทาง หรือนั่งรถบริการไฟฟ้าที่มีอยู่ประจำเส้นทางในพื้นที่จุดให้บริการ การส่งเอกสารกู้ยืมเงิน กยศ. ติดต่อได้ที่ ห้องกยศ.บริเวณชั้น 1 อาคารกิจการนักศึกษา
Location:
กยศ. กองพัฒนานักศึกษา มหาวิทยาลัยราชภัฏนครปฐม 85 ม.3 ต.นครปฐม อ.เมือง จ.นครปฐม 73000
Email:
lermsak@webmail.npru.ac.th
Call:
034-109-300 ต่อ 3388